Mockingjay

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

                                 บทประพันธ์ที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ซ้ำ

                ผู้กองยอดรัก ยอดรักผู้กอง­­ เป็นนวนิยายของ กาญจนา นาคนันทน์ เป็นเรื่องราวของความรักของพลทหารกับผู้กองสาวเจ้าเสน่ห์ที่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง ถูกนำมาสร้างทำเป็นภาพยนตร์ 2 ครั้ง (พ.ศ. 2516, พ.ศ. 2524) และละครโทรทัศน์ถึง 6 ครั้ง (พ.ศ. 2515, พ.ศ. 2522, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2538, พ.ศ. 2545, พ.ศ. 2550) โดยแต่ละครั้งจะมีชื่อเรื่องต่างกัน เช่น ผู้กองยอดรัก, ยอดรักผู้กอง,
 ผู้กองยอดรัก ยอดรักผู้กอง และ ผู้กองอยู่ไหน


                                                                                         กาญจนา นาคนันทน์ 





เนื้อเรื่อง

พัน น้ำสุพรรณ หลังจากที่เรียนจบสาขานิติศาสตร์ เขาก็ทำงานเป็นทนายฝึกหัดอยู่เกือบปีเมื่อหมดกำหนดการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เขาก็เดินทางกลับบ้านเกิด กำนันพูนกับนางจันทร์ ก็เตรียมจัดงานต้อนรับการกลับมาของลูกชายอย่างใหญ่โต พันอยากเป็นทหาร แต่พ่อกำนันไม่ยอมเพราะกลัวลูกจะลำบาก จึงติดสินบนเจ้าหน้าที่สัสดีเพื่อไม่ให้พันได้เป็นทหาร เมื่อพันรู้เรื่องจึงทะเลาะกับพ่อและคิดวางแผนฆ่าตัวตาย ทำให้พ่อกับแม่จึงต้องตามใจ แต่พันจับได้ใบดำ เขาจึงไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์โดยใช้วุฒิการศึกษาแค่ ป.4 วันแรกที่กรม พันได้พบเพื่อน และได้พบกับ ผู้กองฉวีผ่อง พันเกิดปิ๊งเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่อ่ำเตือนพันว่าให้ตัดใจเพราะเธอเป็นลูกสาวสุดหวงของ พันเอกผวนกับคุณนายไฉววงษ์ แต่กลับทำให้พันเกิดความรู้สึกท้าทายมากกว่าที่คิดจะเด็ดดอกฟ้าโดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ พันตรีนายแพทย์สุทธิสาร พันเสนอตัวเป็นคนขับรถให้ผู้กองเพื่อหวังจะจีบหล่อน แต่พันก็โดนผู้กองตอกกลับมาทุกครั้ง ผู้กองเริ่มรู้สึกว่าพันมีความคิดอ่านเกินกว่าคนจบ ป.4 คุณนายไฉววงษ์ ซึ่งเป็นคนที่มีนิสัย ขี้เหนียวสุด ๆ ชอบใจพัน เพราะพันชอบเอาของมาฝากอยู่บ่อย ๆ และเก็บขวดในบ้านไปขายได้ราคาดี แต่หารู้ไม่ว่าพันควักเงินของตัวเองให้คุณนาย พันเริ่มเห็นว่าผู้กองไม่ได้เป็นคนเหย่อหยิ่ง แต่เธอเป็นคนรู้จักวางตัว เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ส่วนผู้กองก็เริ่มเห็นความจริงใจของพัน และเริ่มจะเขวอยู่เหมือนกัน พันเป็นที่โปรดปรานของคุณนายไฉววงษ์ เพราะช่วยคุณนายทำขนม จนพันเอกผวนหึง ทางกรมมีคำสั่งด่วนให้ผู้กองไปรักษาคนไข้ที่ต่างจังหวัด พันเอกผวนจึงให้พันเป็นคนขับรถไปส่ง ระหว่างทางมีโจรดักปล้นรถผู้กอง พันจึงพาผู้กองหนี แต่ดันไปเจอรังโจรและถูกจับ หัวหน้าโจรเห็นผู้กองก็อยากจะได้มาเป็นเมีย พันจึงออกอุบายหลอกโจรว่าผู้กองเป็นเมียตนเองและจูบผู้กองให้โจรดู หัวหน้าโจรจึงยอมตัดใจ ในค่ายผู้กองได้รักษาโจรคนหนึ่ง และผู้กองได้บอกเมียโจรคนนี้ว่าจะต้องรีบพาสามีหล่อนไปส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ถ้าไม่เช่นนั้นอาจจะตายได้ เมียโจรจึงวางแผนใส่ยานอนหลับไว้ในเหล้าจนหัวหน้าโจรและพวกหลับสนิท จึงหนีออกมาได้ มาถึงกรุงเทพฯ พันตรีสุทธิสารก็เร่งรัดขอแต่งงานกับผู้กอง พันเอกผวนเห็นด้วยและเปิดโอกาสให้พัน โดยการให้หาสินสอดทองหมั้นจำนวนมากมาสู่ขอ พันจึงกลับไปบอกพ่อกับแม่ที่สุพรรณให้มาสู่ขอผู้กอง ขบวนขันหมากมาถึงบ้านผู้กองพร้อม ๆ กัน แต่ขันหมากของพันตรีสุทธิสารดูจะได้เปรียบมากกว่า เพราะว่ามีนายทหารชั้นผู้ใหญ่มาเป็นเถ้าแก่สู่ขอ แต่พอพันเอกผวนได้พบกับกำนันพูนถึงกับตะลึงเพราะทั้งสองคนเคนเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน ที่สำคัญกำนันพูนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ขอพันเอกผวนอยู่มากโข พันเอกผวนจึงให้ผู้กองฉวีผ่อง ตัดสินใจเองว่าจะรับขันหมากจากฝ่ายใด












ทำเป็นละครโทรทัศน์ 6 ครั้ง



              บทประพันธ์นี้ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง  
ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2515 แสดงโดย ชุมพร เทพพิทักษ์ และกนกวรรณ ด่านอุดม ออกอากาศทาง ช่อง 4 บางขุนพรหม 

ครั้งที่ 2 ออกอากาศทาง ช่อง 5 ในปี พ.ศ. 2522 สร้างโดย รัศมีดาวการละคร นำแสดงโดย นิรุตติ์ ศิริจรรยา และดวงใจ หทัยกาญจน์ ได้รับความนิยมอย่างมาก ถือว่าโด่งดังมากมายเลยทีเดียว

 ต่อมา ออกอากาศทาง ช่อง 9 ถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2531 สร้างโดย สีบุญเรืองสยามสตูดิโอ นำแสดงโดย ทูน หิรัญทรัพย์, สาวิตรี สามิภักดิ์

 และในปี พ.ศ. 2538 สร้างโดย อัครมีเดีย นำแสดงโดย วรุฒ วรธรรม, ชลิตา เฟื่องอารมย์, หนู เชิญยิ้ม 

ส่วนในปี พ.ศ. 2545 ออกอากาศทาง ช่อง 3 สร้างโดย อาร์เอส นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์, กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน

 และครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2550 ออกอากาศทาง ช่อง ITVสร้างโดย ทีวี ธันเดอร์ นำแสดงโดย เกียรติกมล ล่าทา, ไดอาน่า จงจินตนาการ






                ผมคิดว่าการที่ผู้สร้างนำบทประพันธ์ ที่มีชื่อเสียง มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ซ้ำๆกันหลายรอบหลายเวอร์ชั่น  ก็เพราะผู้สร้างมองเห็นว่าบทประพันธ์เรื่องนี้ เคยเป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่สนใจมาก่อน
   ถ้านำมาสร้างใหม่ต้องมีผู้ชมที่ชื่นชอบอย่างแน่นอน แต่ทั้นนี้ก็ต้องมีการเพิ่มเนื้อหาเพื่อให้มันทันกับโลก
   ในปัจจุบันเข้าไปด้วย  เพราะคนรุ่นใหม่ๆจะได้เกิดความสนใจมากขึ้น    แต่การนำมาทำซ้ำบ่อยจนเกินไป
   ก็อาจทำให้ผู้ชมเกิดการเบื่อละครเรื่องนั้นไปเลยก็ได้ 


อ้างอิง

1.     Jump upJump up ผู้กองยอดรัก (2516) มนัส กิ่งจันทร์.

แหล่งข้อมูลอื่น

รูปภาพสวยๆจาก

                       https://www.google.co.th


นักนิเทศศาสตร์ในยุคดิจิตอล

 







ในโลกของความเปลี่ยนแปลงและโลกดิจิทัลในปัจจุบันนี้ การสื่อสารได้ปรับเปลี่ยนไปมาก เนื่องจากกระแสเทคโนโลยีสารสนเทศได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเปิดรับข่าวสารของประชาชนปัจจุบันอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนาไปมากทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปรับสื่อสมัยใหม่มากขึ้นทิ้งสื่อดั้งเดิมไว้เป็นทางเลือก โดยเฉพาะการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ กระทั่งสื่อดาวเทียม ที่กำลังเข้ามามีบทบาทแทนสื่อหลัก




          ในปัจจุบันจึงจำเป็นที่นักนิเทศศาสตร์ไม่ว่าจะในแขนงใด จะต้องมีความรู้ในด้านไอทีอยู่ไม่มากก็น้อยผ่านมาจะเห็นว่าจากเดิมที่หลักสูตรจะผลิตบุคลากรให้ออกมาเป็น นักข่าว นักโฆษณา นักประชาสัมพันธ์ การเรียนการสอนเป็นสาขาวิชาเดี่ยวๆ นักศึกษาที่จบออกไปก็จะมีความรู้เฉพาะสาขาด้านนั้นๆแต่ยุคสมัยได้มีการเปลี่ยนไป จะเห็นว่าองค์กรสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็น วิทยุโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ต่างๆที่เข้ามาในชีวิตประจำวันนั้นไม่ได้มีแค่ทางๆเดียวเพราะเทคโนโลยีสมัยนี้
มันวิวัฒนาการไปอย่ารวดเร็ว และในสังคมไทยในปัจจุบันนี้การใช้สื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ และสื่อออนไลน์ต่างๆ  มันได้ปรับตัวผนวกเข้าหากันได้อย่างง่ายดาย ทำให้การรับรู้ข่าวสารที่เกิดขึ้นมีประสิทธิภาพมมากขึ้นและรวดเร็วและอย่างอิสระ   


เราจะเห็นว่าปัจจุบัน Social Network  จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับการสื่อสาร  เพราะจะมีความสะดวกสบายรวดเร็วในการนำเสนอข่าวสารต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์อะไรมาก เหมือนกับสื่อในยุคก่อน   แค่เรามีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เครื่องเดียวก็สามารถที่จะนำเสนอข่าวสารต่างๆได้อย่างรวดเร็วสามารถนำเสนอข่าวสารไปได้ทั่วโลก ในไม่กี่วินาที     ในบัจจุบันไม่่จำเป็นต้อง เรียนจบมาทางสายนิเทศศาสตร์โดยตรง ก็สามารถนำเสนอข่าวสารต่างๆ  ให้กับผู้รับสารคนอื่นๆ ได้เข้าถึงข่าวสารนั้นได้ โดยการใช้สื่อ    Social Network  เป็นตัวส่งข่าวสารไปยังผู้อ่าน  หรื่อผู้รับสารต่างๆ
แต่ทั้งนี้การนำเสนอข่าวสารต่างนั้นก็ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น  ไม่ไปทำให้ผู้อื่นเสียหาย  โดยการไปใส่ร้าย  หรือนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง   คือเราจะต้องรู้ถึงกฎหมาย   หรือขอบเขตในการใช้   Social Network นั้นด้วย

ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก
https://www.google.co.th